NIGHT SHIFT #ONGNIEL

Night Shift

-SeongWu X Daniel-
#คลีเช่องเนียล


266 words


We're talking away
I don't know what
I'm to say I'll say it anyway
Today's another day to find you

มันคงไม่แปลกสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยนักที่จะเข้าร้านกาแฟเวลาสองทุ่มเช่นนี้ โดยเฉพาะช่วงแห่งมิดเทอมcrisis

องซองอูเปิดประตูเข้าไปในคาเฟ่ร้านประจำของเขา ที่จริงเขาก็ไม่ได้มาพวกคาเฟ่อะไรแบบนี้บ่อยขนาดนั้น ส่วนมากก็ชงกาแฟสำเร็จรูปแบบซองอยู่ที่หอนั่นแหละ แต่ร้านนี้ก็เป็นร้านที่เขามาบ่อยสุด แถมไหนๆวันนี้ก็เลิกคลาสดึกเพราะใกล้สอบด้วย

คาเฟ่เปิดเพลงเบาๆไม่คุ้นหูของเขา ก็ส่วนมากช่วงนี้ทุกๆร้านต่างเปิดเพลงฮิตประจำช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็น ENERGETIC หรือ DNA นี่นะ

"รับอะไรดีครับคุณลูกค้า"

Take me on, (take on me)
I'll be gone In a day or two

วันนี้มีพนักงานเพียงคนเดียวในร้าน ก็ไม่แปลกสำหรับคาเฟ่เล็กๆแถวมหาลัย แถมเป็นช่วงเวลาคนไม่ค่อยเข้าร้านด้วย

"รับอะไรดีครับ?"

"อ่า.. ผมขออเมริกาโน่เย็น"

"สักครู่นะครับ"

เหมือนผมจะเผลอเหม่อลอยไปนิดหน่อย เพราะบทเรียนที่อัดมาจากคาบสุดท้าย แถมร้านเปิดเพลงไม่คุ้นหู ผมแอบกลัวว่าพนักงานจะอารมณ์เสียใส่ผม
แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มตาหยีมิด จนแก้มเกิดเป็นรอยริ้ว ก่อนจะหันหลังไปทำหน้าที่ของเขา

"คุณเป็นพนักงานใหม่หรอครับ"

ผมชวนบาริสต้าที่ไม่คุ้นตาคนนี้คุย ซึ่งกำลังชงกาแฟอย่างคล่องแคล่ว หวังจะคลายความเงียบของร้านกาแฟ ในเวลาสองทุ่มเช่นนี้

"ครับ"

"คุณคุยกับผมอย่างสบายๆเถอะ แบบนี้ผมรู้สึกawkwardนะ"

"คุยเล่นกับลูกค้าไม่ผิดกฎร้านหรอกครับ ผมไม่ชอบบรรยากาศเงียบๆน่ะ"

คนตัวใหญ่กว่าเล็กน้อยมองเขาอย่างไม่มั่นใจนัก เหมือนลังเลว่าจะตกลงไปกับคำเสนอของเขาไหม
เขาตัวค่อนข้างใหญ่กว่าผม หรือไม่ผมก็อาจจะเป็นพวกขี้ก้างเสียเอง แถมอายุน่าจะน้อยกว่าผมด้วย

"อ่า.. ผมควรคุยอะไรกับคุณดีละครับคุณลูกค้า"

"เรื่องเรื่อยเปื่อยอะไรก็ได้ อย่างเช่น ตอบคำถามผมคุณแดเนียล"

ผมพูดพลางชี้ไปที่ป้ายชื่อพนักงานตรงอกของเขา ไม่ได้จะแกล้งเด็กใหม่อะไรหรอกนะ ก็มันเงียบนี่นา ชวนคุยจะแปลกอะไรไป

"อ้อ ขอโทษครับ ผมกลัวว่าคุยแล้วผมจะรุกล้ำความเป็นส่วนตัวคุณโดยไม่รู้ตัวน่ะสิครับ และก็สำหรับคำถาม ครับ ผมเพิ่งเริ่มงานต้นอาทิตย์นี้เอง"

"น่าแปลก ผมเป็นลูกค้าประจำแท้ๆ แต่ผมไม่เคยสังเกตเห็นคุณ"

"ผมเข้าแค่กะช่วงเย็นน่ะครับ"

บาริสต้าตัวขาวทำกาแฟของเขาเสร็จ แล้วจึงวางแก้วใสไว้ที่เคาน์เตอร์

"แย่ล่ะ ผมลืมถามชื่อคุณลูกค้า"

"5555 ไม่เป็นไรหรอกครับ คราวหน้าอย่าลืมนะ"

"คุณลูกค้าอย่าฟ้องเมเนเจอร์นะครับ.."

"ผมไม่ฟ้องหรอก"

บาริสต้ามองกาแฟที่ผมสั่งอย่างกังวลใจ เหมือนจะไม่ใช่แค่เรื่องชื่อล่ะสิ

"ใกล้สอบน่ะ เลยต้องการคาเฟอีนในกระแสเลือดสักหน่อย"

"อ๋อ..นั่นสินะครับ"

แววตาเป็นประกายอย่างปิดไม่มิดเมื่อได้รับคำตอบของคนตรงหน้าพานึกถึงหมาซามอยด์ที่เขาเลี้ยงที่บ้านพ่อแม่ แม้อีกฝ่ายจะพยายามกลั้นยิ้มของตัวเองไว้ แต่เขาก็มองออกอยู่ดี ภาพที่เห็นดูทั้งน่าเอ็นดูแต่ก็ตลกพอๆกัน เหมือนประมาณว่ากำลังอยู่ในหน้าที่เลยพยายามไม่หัวเราะแบบนั้นแหละ

"คุณเปิดเพลงจากมือถือตัวเองหรอน่ะ ผมชอบนะ ช่วงนี้ทุกร้านเปิดเพลงเดียวกันหมด ผมฟังจนจะร้องได้ละ ไอ้ ENERGETIC เนี่ย"

พูดพลางก็ชี้ไปที่ไอโฟนที่ต่อสายเพื่อเปิดต่อลำโพงไว้อยู่ ซึ่งผมก็เพิ่งสังเกตเห็นเมื่อสักครู่นี้เอง

"อะ เอ่อ ครับ… ใช่ครับ"

คนตัวขาวตกใจใหญ่ แถมทำท่าเขินอายหน่อยๆ เมื่ออีกฝ่ายทักเข้าแบบนั้น ยังกะว่าไปพบความลับของตัวเองเข้าแบบนั้นแหละ

"เพลงอะไรน่ะ"

"Take on me ครับ ของ A-ha"

คราวนี้เจ้าหมาซามอยด์ตรงหน้าผมไม่กลั้นยิ้มอีกแล้ว แต่กลับทั้งยิ้มและหัวเราะเบาๆออกมา แววตาตอนที่ผมถามถึงชื่อเพลงนั่นก็สดใสไม่แพ้เสียงหัวเราะของเขาเช่นกัน พอได้เห็นอีกฝ่ายยิ้มจนตาหยี ก็เพิ่งสังเกตจุดไฝใต้ตาของเขาที่เด่นและมีเสน่ห์ไม่แพ้กับรอยยิ้มที่สดใสสว่างจ้านั่น ทำไมเป็นอะไรที่ทั้งน่าเอ็นดูและมีเสน่ห์ขนาดนี้กันนะ เป็นพาวเวอร์พัฟเกิร์ลรึไงกัน

"เป็นเพลงเก่าน่ะครับ แต่ผมรู้จักมาจากหนังนะ เปิดอยู่ในหนัง"

ที่จริงผมกำลังเพลินอยู่กะการได้คุยกับชายตรงหน้าพอตัว อยากจะคุยต่อว่าหนังเรื่องอะไร มาจากไหน ก็ตอนเห็นแววตาและความกระตือรือร้นของอีกฝ่ายตอนตอบนี่มันน่าเอ็นดูจะตายนี่นะ แต่พอระลึกได้ว่าอ่านมิดเทอมไม่ทันแล้ว จึงเรียกสติตัวเองกลับคืนมา

"ผมควรไปแล้ว ไม่งั้นอ่านหนังสือไม่ทันแน่ๆ"

"วันหลังคุณลูกค้าก็มานั่งอ่านที่ร้านสิครับ แต่ร้านเราก็เปิดถึงแค่สี่ทุ่มอยู่ดี แหะๆ"

ผมยิ้มตอบรับความหวังดีของบาริสต้าหนุ่มก่อนจะเดินออกไปจากร้าน แต่ก็ไม่นานหลังจากก้าวพ้นประตูร้านนักที่ผมได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง

"คุณลูกค้า!"

ผมหันกลับไปมองบาริสต้าคนเดิม ที่วิ่งตามเขามา ในขณะเดียวกันก็เช็คตัวเองว่าลืมของอะไรหรือเปล่า

ปรากฏหนุ่มน้อยตรงหน้ากลับยื่นใบเสร็จมาให้เขา
เหมือนจะทำหน้าที่ดีเกินไปนะ

"คุณ แค่ใบเสร็จเอง อีกอย่างผมไม่กะเก็บอยู่แล้ว"

อีกฝ่ายยิ้มรับคำพูดของผม ยิ้มแบบเดิมยิ้มจนตาหยี แถมหัวเราะแห้งๆใส่เขา จากนั้นก็วิ่งกลับเข้าร้านไป

ทำแบบนี้ก็ไม่กล้าทิ้งสิ…

ผมพับใบเสร็จใส่กระเป๋าตังค์จากนั้นจึงเดินกลับหอตัวเอง


ผมไม่ได้ไปคาเฟ่นั่นร่วมสัปดาห์


หลังจากเหตุการณ์ใบเสร็จในวันนั้น ผมก็ไม่ได้ไปเหยียบคาเฟ่นั่นอีก ไม่ใช่เพราะเขากลัวหรือระแวงบาริสต้าหนุ่มคนนั้นหรอกนะ ไม่เลยสักนิด เพียงแค่เขาติดสอบกลางภาคจนไม่มีเวลาต่างหาก แต่ในที่สุดก็รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด

"50บาทครับ รับขนมจีบกุ้งเพิ่มไหมครับ สองไม้ได้แสตมป์สามดวงนะครับ"

เขาส่ายหน้าให้พนักงาน พร้อมเปิดกระเป๋าตังค์ และยื่นแบงค์ร้อยไป อันที่จริงน่าจะมีแบงค์ห้าสิบอยู่ เขาจำได้ว่ารับตังทอนเป็นแบงค์ห้าสิบมาตอนเที่ยง แต่คงเพราะพวกใบเสร็จที่เขาไม่ทิ้งซักทีนี่แน่ๆ เต็มกระเป๋าจนหากะตังไม่เจอ

ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาไม่ดึงใบเสร็จทั้งหมดนั่น ทิ้งที่ถังขยะหน้าเซเว่น คิดว่าเผื่อจะมีแบงค์ติดมาแล้วไม่รู้ตัวละมั้ง เลยกะจะไปจัดการซากใบเสร็จเหล่านี้หลังจากถึงหอแทน

ใบโอนเงิน ใบโอนเงิน ใบเซเว่น แสตมป์ …
แสตมป์นี่ทำเหี้ยไรได้วะ ซองอูเอ๊ย

เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง พร้อมทั้งจัดการหยิบใบเสร็จทั้งหมดออกมาจากกระเป๋าตังแล้วเช็คทีละใบ อันที่จริงก็เจ็บใจไม่น้อยที่ใบโอนตังนั้นเยอะกว่าแบงค์ในกระเป๋าตังค์เสียอีก

แล้วนี่ใบอะไรวะเนี่ย

ใบเสร็จที่ตัวอักษรเริ่มจางแล้ว แต่มีรอยหมึกชัดเข้มซึมจากด้านหลัง เหมือนมีใครจดอะไรเอาไว้

หรือจะจดการบ้านไว้วะซองอู.. จดในใบเสร็จเนี่ยน---

สู้ๆนะครับ ไฟทติ้ง! 

ชิบหายละ 

เพิ่งมาเห็น

ใครจะรู้กันละว่าส่งใบเสร็จมาให้เพราะการนี้ คุณบาริสต้า!


///////////TBC///////////


TALK! : เหตุเกิดจากภาพน้องแดนชุดคาเฟ่ ของ Ivy club บวกกับอยากเขียน Cafe AU มานานแล้ว แถมน่าจะเป็นผลพวงจากมิดเทอมเลยอยากเขียนค่ะ… แต่น้องแดนชุดบาริสต้านี่เท่สุดๆไปเลยค่ะ ประทับใจมากๆ ㅜㅡㅜ
เรื่องนี้มันมีความเอยูหน่อยๆค่ะ แต่ก็ไม่ได้ตลอดทั้งเรื่องหรอกนะคะ ใครมองออกก็… ดีใจค่ะ 55555

หวังว่าจะชอบกันนะคะ ! ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ><

สำหรับเพลงตอนนี้คือเพลง Take on me ของ A-ha ค่ะ เพลงเก่ามากมาก…

ปล. Pls feel free to talk or comment ! นะคะ ทั้งในแทกทวิตหรือบลอคนี้เลยค่ะ ♡ (*´ڡ`●)❤(ӦvӦ。)

#คลีเช่องเนียล

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม